
มะม่วงแดงจักพรรดิ
มะม่วงแดงจักพรรดิ
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mangifera indica L.
ชื่อสามัญ: Mango
วงศ์: ANACARDIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เหมือนกับมะม่วงทั่วไป คือ เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนมน แต่ใบมีขนาดใหญ่และยาวดูคล้ายใบของมะม่วงเขียวใหญ่มาก ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกมีกลิ่นหอม “ผล” รูปกลมรียาวและอ้วนใหญ่ ผลโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 1 กิโลกรัม ต่อผล ผลเป็นสีม่วงเข้มตลอดทั้งผลสวยงามมาก รสชาติอร่อยทั้งผลดิบและสุก
มีถิ่นกำเนิด
ที่ไต้หวันและเป็นมะม่วงลูกผสมระหว่างพันธุ์ จินหวง กับมะม่วงพันธุ์ “อ้ายเหวิน” (มะม่วงอ้ายเหวินเป็น มะม่วงสายพันธุ์เดียวกับพันธุ์เออร์วิน) มะม่วงลูกผสมสายพันธุ์นี้ได้มีการนำยอดพันธุ์มาเสียบยอดในประเทศไทยประมาณ 4-5 ปีมาแล้ว
มะม่วงแดงจักพรรดิ์หรือยู่เหวิน มะม่วงชนิดนี้ เกิดจากการผสมเกสรของมะม่วงชื่อดัง 2 สายพันธุ์ของประเทศไต้หวัน คือ ระหว่าง มะม่วงอ้ายเหวิน กับ มะม่วงจีนหวง เมื่อได้ลูกไม้ใหม่ออกมานำไปปลูกจนต้นโตและติดผลมีลักษณะดีกว่ามะม่วงที่เป็นสายพันธุ์พ่อและแม่อย่างชัดเจนหลายจุด เช่น ผลมีขนาดใหญ่กว่า ติดผลดก สีสันของผลเป็นสีม่วงเข้ม ทำให้เวลาติดผลทั้งต้น ผลห้อยเป็นระย้าดูสวยงามมากส่วน รสชาติของผลขณะยังดิบหรือห่ามจะหวานมันปนเปรี้ยวนิดๆ อร่อยเหมือนกินมะม่วงมันทั่วไปทุกอย่าง เมื่อผลสุกเนื้อในผลจะเป็นสีเหลืองเข้ม เนื้อไม่เละ ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวานหอมชื่นใจมาก
วิธีปลูก อาจจะใช้กิ่งตอน,กิ่งทาบ และการเพาะเมล็ด แต่ทุกวิธีต้องทำด้วยความระมัดระวังรากเป็นพิเศษ อย่าให้รากขาด เพราะจะทำให้ต้นชะงักการเติบโต หรือแย่ที่สุดคือตาย ทั้งนี้ การ “ทาบกิ่ง” จะเป็นที่นิยมมากกว่าการเพาะเมล็ดซึ่งทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้ง่าย จึงเป็นวิธีที่เหมาะที่สุดสำหรับมะม่วง แถมยังออกดอกผลเร็วกว่าการปลูกด้วยเมล็ด ส่วนการตอนกิ่ง ก็นิยมเช่นกันเพราะว่าพอตัดไปปลูกแล้วจะได้ต้นแบบเหมือนต้นแม่ ลดการกลายพันธุ์ แต่ข้อเสียคือรากของพืชไม่ค่อยแข็งแรง เพราะไม่มีรากแก้ว