• หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • ความเป็นมา
    • วัตถุประสงค์
    • แนวทางการดำเนินงาน
  • ข่าวสาร
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • ข่าวฝึกอบรม
  • งานอบรม
    • หลักสูตรฝึกอบรม
    • ตารางกิจกรรม
    • คลังวีดีโอ
    • คลังรูปภาพ
  • บริการสถานที่
    • บริการจัดเลี้ยง
    • พิธีหมั้น
    • ประชุม / สัมมนา
  • ร้านค้า
    • สินค้าและโปรโมชั่น
  • ห้องสมุด
    • ประวัติความเป็นมา
    • บริการห้องสมุด
    • นิทรรศการถาวร พิพิธชัยพัฒนา
  • เกร็ดความรู้
    • เกร็ดความรู้ทั่วไป
    • ศูนย์การเรียนรู้อุทยาน พรรณไม้
  • ติดต่อ
  • แผนผังเว็บไซต์

อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม

ชะเอมเทศ

ชะเอมเทศ สรรพคุณและประโยชน์ของชะเอมเทศ

ชะเอมเทศ

 

ชะเอมเทศ ชื่อสามัญ Licorice, Chinese licorice, Russian licorice, Spanish licorice

ชะเอมเทศ ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycyrrhiza glabra L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)

สมุนไพรชะเอมเทศ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กำเช่า กำเช้า (จีน-แต้จิ๋ว), กันเฉ่า (จีนกลาง), ชะเอมจีน เป็นต้น และชะเอมเทศนี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน

ลักษณะของชะเอมเทศ

  • ต้นชะเอมเทศ จัดเป็นไม้พุ่มที่มีอายุนาน มีลำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร

ต้นชะเอมเทศ

รากชะเอมเทศ

ใบชะเอมเทศ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับกัน มีใบย่อยประมาณ 9-17 ใบ มีสีเขียวอมเหลือง ส่วนก้านใบย่อยจะสั้นมาก

ใบชะเอมเทศ

ดอกชะเอมเทศ ออกดอกเป็นช่อ กลีบดอกเป็นสีม่วงอ่อน ๆ ส่วนก้านดอกสั้นมาก

รูปชะเอมเทศดอกชะเอมเทศ

ผลชะเอมเทศ หรือ ฝักชะเอมเทศ ผลมีลักษณะเป็นฝักแบน ผิวภายนอกมีลักษณะเรียบ

เมล็ดชะเอมเทศ

ชะเอมเทศสมุนไพรที่ได้รับการขนานนามในประเทศจีนว่าเป็นยอดสมุนไพรที่ช่วยขจัดพิษ ซึ่งการรับประทานเป็นประจำในปริมาณน้อย ๆ จะช่วยกำจัดพิษที่สะสมในร่างกายให้ลดลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษที่สะสมในเลือดและตับ และเมื่อเทียบกับสมุนไพรชนิดอื่นแล้วชะเอมเทศนั้นจะมีรสชาติที่อ่อนนุ่มและไม่มีผลข้างเคียง จึงเป็นที่นิยมนำมาช่วยขจัดสารพิษมากกว่าสมุนไพรชนิดอื่น และชะเอมเทศยังมีชื่อเสียงในด้านเป็นยาขับเสมหะ นำมาทำเป็นน้ำชาแก้อาการไอและอาการเจ็บระคายคอ และนิยมนำมาใช้เพื่อช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ

สรรพคุณของชะเอมเทศ

  1. รากช่วยบำรุงร่างกาย (ราก)
  2. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากรากชะเอมเทศมีสารสำคัญอย่าง กลีเซอไรซิน (Glycyrrhizin) และสารเคมีอื่น ๆ อีกหลายร้อยชนิด เช่น ไฟโตเอสโตรเจนและฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ราก)
  3. เปลือกต้นและผลมีรสหวานใช้เป็นยาบำรุงกำลัง (เปลือกต้น, ผล)
  4. ช่วยแก้อาการอ่อนเพลียจากการตรากตรำทำงานหนัก (ราก) บรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรังและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แต่เข้าใจว่าเป็นราก)
  5. ช่วยสงบประสาท มีฤทธิ์กล่อมประสาท กดระบบประสาทส่วนกลาง (ราก)
  6. ช่วยเจริญซึ่งหทัยวาตให้สดชื่น (ราก)
  7. ช่วยกระจายลมเบื้องบนและลมเบื้องล่าง (ต้น)
  8. ช่วยแก้อาการไอเป็นไข้  ลดไข้ ต้านมาลาเรีย (ราก) ลดไข้ (ราก)
  9. สำหรับผู้ที่มีอาการไอไม่หยุด เนื่องจากเป็นภูมิแพ้และมีอาการกระหายน้ำอย่างรุนแรง ให้ใช้ชะเอมเทศแห้ง 4 กรัม (ไม่ระบุว่าเป็นส่วนไหน แต่เข้าใจว่าเป็นราก), โสมคนแห้ง 3 กรัม, ขิงแห้ง 5 กรัม, และพุทราแดงจีนแห้ง 5 กรัม (หาซื้อได้ตามร้านขายยาจีน) นำมาห่อให้ผ้าขาวบางแล้วมัดไว้ให้แน่นต้มน้ำจนเดือดหรือแช่ในน้ำร้อนจนเนื้อยาออก แล้วนำมาดื่มเมื่อมีอาการไอหรือใช้ดื่มต่างน้ำแบบจิบบ่อย ๆ จะช่วยลดอาการดังกล่าวได้
  10. ช่วยระบายความร้อนและช่วยขับพิษ (ราก)
  11. ทำให้มีอาการคลื่นเหียนอาเจียน (เปลือกต้น)
  12. ช่วยรักษาอาการเบื่อเมา (ราก)
  13. ช่วยรักษากำเดาให้เป็นปกติ (ราก)
  14. ชะเอมเทศ ช่วยบรรเทาอาการของโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แต่เข้าใจว่าเป็นราก)[8]
  15. ช่วยทำให้ชุ่มคอและแก้อาการไอ (ราก)
  16. ช่วยทำให้ชุ่มชื้น แก้อาการคอแห้ง (ผล, ราก)
  17. รากสดใช้รักษาอาการเจ็บคอ (ราก) หรือใช้เข้าในตำรายาร่วมกับสมุนไพรอื่น ช่วยแก้อาการคอบวม อักเสบ (ราก)
  18. ช่วยทำให้เสมหะในคอแห้ง (ใบ)
  19. ช่วยขับเสมหะ (ราก)
  20. ช่วยแก้เสมหะเป็นพิษ (ราก)
  21. รากใช้ปรุงเป็นยาแก้น้ำลายเหนียว (ราก)
  22. ช่วยบำรุงหัวใจ (ราก)
  23. ช่วยเสริมชี่ ทำให้การเต้นของชีพจรมีแรงและกลับคืนสภาพปกติ รักษาชี่ของหัวใจพร่อง (กำเช่าผัดน้ำผึ้ง)
  24. ช่วยแก้อาการใจสั่น (ราก)
  25. ช่วยแก้เส้นเอ็นและชีพจรตึงแข็ง ทำให้ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอและชีพจรเต้นหยุดอย่างมีจังหวะ (กำเชาผัดน้ำผึ้ง)
  26. รากชะเอมเทศมีรสชุ่ม ใช้เป็นยาบำรุงปอด (ราก)
  27. ช่วยแก้อาการปวดท้อง (ราก, กำเช่าผัดน้ำผึ้ง)
  28. ช่วยขับลม (ราก)
  29. ช่วยป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร (ราก)
  30. ช่วยในการย่อยอาหาร แก้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีหรืออาหารเป็นพิษ (ราก)
  31. ช่วยบำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร (กำเช่าผัดน้ำผึ้ง)
  32. ช่วยขับเลือดที่เน่าเสียในท้อง (ราก)
  33. ในประเทศญี่ปุ่นมีการใช้สารสกัดดจากรากชะเอมเทศเพื่อใช้รักษาโรคตับอักเสบมานานกว่า 20 ปีแล้ว และยังมีการศึกษาทางคลินิกพบว่ารากชะเอมเทศนั้นสามารถช่วยลดระดับเอนไซม์ตับ (Amino-Transferase) ซึ่งทำให้เซลล์ตับดีขึ้น
  34. ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากไวรัสตับอักเสบได้เร็วขึ้น (ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แต่เข้าใจว่าเป็นราก)
  35. ใบชะเอมเทศใช้เป็นยารักษาดีพิการ (ใบ)
  36. ช่วยรักษาพิษของฝีดาษ (ดอก)
  37. ช่วยรักษาแผลเรื้อรัง (ราก)
  38. ดอกชะเอมเทศใช้แก้อาการคัน (ดอก, ราก)
  39. ช่วยรักษาผื่นเอ็กซีมา โดยครีมชะเอมเทศนั้นสามารถนำมาใช้ทาเพื่อรักษาโรคผิวหนังอักเสบจากผื่นเอ็กซีมาได้ (มะบุว่าทำจากส่วนไหน แต่เข้าใจว่าทำจากราก)
  40. รากชะเอมเทศมีฤทธิ์ช่วยแก้อาการปวด ช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ (ราก)
  41. รากมีฤทธิ์ช่วยต้านไมโครแบคทีเรีย อะมีบา เชื้อรา เชื้อไวรัส ไวรัสของพืช ยีสต์ พยาธิไส้เดือน ขับพยาธิตัวตืด ช่วยยับยั้งการสร้างอะฟลาทอกซิน และช่วยลดอาการฟันผุ (ราก)
  42. ใช้รักษาพิษจากยาหรือพิษจากพืชชนิดต่าง ๆ (ราก)

ข้อมูลทางคลินิกของชะเอมเทศ

  1. ช่วยรักษาเยื่อตาอักเสบ และเยื่อหุ้มลูกตาชั้นนอกอักเสบ (Scleritis)
  2. ช่วยรักษาเส้นเลือดดำขอด
  3. ช่วยรักษาโรคไข้มาลาเรีย
  4. ช่วยรักษาโรควัณโรคปอด
  5. ช่วยรักษาอาการหอบหืดเนื่องจากหลอดลมอักเสบ
  6. ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารหรือในลำไส้เล็ก
  7. ช่วยรักษาอาการลำไส้บีบตัวผิดปกติ ซ้อนกันเป็นก้อน
  8. ช่วยรักษาโรคพยาธิใบไม้ในเลือดอย่างเฉียบพลัน
  9. ช่วยรักษาปากมดลูกอักเสบเน่าเปื่อย
  10. ช่วยรักษาอาการปัสสาวะออกมามากผิดปกติหรือเป็นเบาจืด
  11. ช่วยรักษาโรคตับอักเสบชนิดที่ติดต่อได้
  12. ช่วยรักษาโรคผิวหนังอักเสบเป็นผดผื่นคัน
  13. ช่วยรักษาผิวหนังบริเวณแขนและขาแตกเป็นขุย
  14. ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากการถูกความเย็นจัด

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของชะเอมเทศ

  1. เมื่อได้รับประทานชะเอมเทศแล้วสารสกัดจะไปเคลือบเยื่อเมือกตามบริเวณที่อักเสบตามลำคอ จึงช่วยลดการระคายเคืองและช่วยบรรเทาอาการไอได้สมุนไพรชะเอมเทศ
  2. ช่วยกำจัดเชื้อไวรัสที่ก่อกวนทางเดินหายใจ จึงช่วยบรรเทาอาการไอและเจ็บคอ ขับเสมหะและทำให้น้ำมูกลดลง
  3. กลีเซอไรซินไม่มีผลต่อการเผาผลาญไขมันในคนปกติ แต่สำหรับคนไข้ที่มีความดันโลหิตสูง เมื่อได้รับกลีเซอไรซินไปแล้วจะทำให้ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง และยังช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย
  4. กรดกลีเซอเรตินิคมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในไขกระดูกชนิด Oberling-Guerin ที่ได้เพาะเลี้ยงในไขกระดูกของหนูใหญ่สีขาว
  5. กลีเซอไรซินและเกลือแคลเซียมกลีเซอไรวิเนต เมื่อนำมาฉีดเข้าหลอดเลือดดำจะไปเพิ่มฤทธิ์การขับปัสสาวะของธีโอฟิลลีน (Theophylline)
  6. สารกลีเซอริซินมีฤทธิ์กระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนให้ผลิตฮอร์โมนบางชนิด จึงช่วยรักษาอาการอ่อนเพลียแบบเรื้อรังได้ อาการปวดกล้ามเนื้อ และความผิดปกติอื่น ๆ ที่เกิดจากฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) จากต่อมหมวกไต และยังช่วยรักษาอาการผิดปกติได้ทุกประเภท
  7. มีฤทธิ์ในการช่วยรักษาแผลเรื้อรังในระบบทางเดินอาหาร มีฤทธิ์ต่อการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และมีฤทธิ์ในการคลายกล้ามเนื้อเรียบ
  8. มีฤทธิ์ต่ออาการดีซ่านที่เกิดจากการทดลอง โดยกลีเซอไรซินและกรดกลีเซอเรตินิค จะทำให้บิลิรูบิน (Bilirubin) ในพลาสมาของหนูใหญ่สีขาวและกระต่ายที่เกิดจากการผูกท่อน้ำดีให้มีปริมาณลดลง และการขับบิลิรูบินออกมาทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น
  9. ชะเอมเทศมีฤทธิ์อะดรีโนคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Adrenocorticosteroids) มีฤทธิ์คล้ายกับคอร์ติโตสเตียรอยด์ มีสารสกัดเข้มข้น โพแทสเซียมกลีเซอไรซิเนตหรือแอทโมเนียมกลีเซอไรซิเนต และกรดกลีเซอเรตินิค (Glycyrhetinic acid) โดยสารเหล่านี้ล้วนแต่มีฤทธิ์เหมือนกันกับดีออกซีคอร์ติโซน (Deoxycortisone) ซึ่งจะช่วยทำให้การขับถ่ายปริมาณของปัสสาวะและเกลือโซเดียมลดลง และมีฤทธิ์คล้ายกับกลูโคคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Glucocorticosteroids) กรดกลีเซอเรตินิคจะไปช่วยยับยั้งการทำลายกรดอะดรีโนคอร์ติโคสเตียรอยด์ในร่างกาย จึงทำให้ระดับของคอร์ติโคสเตียรอยด์ในเลือดสูงขึ้น
  10. ชะเอมเทศอาจช่วยรักษาภาวะอาการประจำเดือนผิดปกติและภาวะหมดประจำเดือน โดยสารกลีเซอไรซินนั้นเป็นเอสโตรเจนอย่างอ่อน จึงอาจช่วยในการจับตัวรับเอสโตรเจนในร่างกายได้ เมื่อร่างกายมีเอสโตรเจนมากเกินไป กลีเซอไรซินจะช่วยลดฤทธิ์ของเอสโตรเจนลง แต่ถ้าหากร่างกายมีระดับเอสโตรเจนต่ำ (วัยหมดประจำเดือน) กลีเซอไรซินจะทำหน้าที่แทนเอสโตรเจนอย่างอ่อน
  11. ช่วยรักษาอาการอักเสบและอาการแพ้ โดยกรดกลีเซอเรตินิคนั้นมีฤทธิ์ช่วยรักษาอาการบวมอักเสบได้ในหนูใหญ่
  12. สารที่สกัดที่ได้จากชะเอม FM100 มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการชัก
  13. กลีเซอไรซินและน้ำต้มสกัดจากชะเอมมีฤทธิ์ในการรักษาพิษของสตริกนีน โดยสามารถลดความเป็นพิษและอัตราการต้านจากสตริกนีนได้ ฤทธิ์นี้อาจเนื่องมาจากกรดกลูคูโรนิกซึ่งมีอยู่ในชะเอมเทศ
  14. ฤทธิ์อื่น ๆ โซเดียมกลีเซอไรซิเนตทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และกลีเซอไรซินยังมีฤทธิ์ช่วยลดไข้ในหนูเล็กขาวและในกระต่ายทดลองที่ทำให้เกิดขึ้นได้
กำเช่า
ลักษณะของชะเอมเทศ

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรชะเอมเทศ

  • การรับประทานผลิตภัณฑ์หรือมีส่วนผสมจากชะเอมเทศติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลทำให้ความดันโลหิตสูง (190 - 200/120 มม.ปรอท) อีกทั้งยังมีอาการปวดหัว อ่อนแรงตามข้อต่อ และส่งผลทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำลง ดังนั้นผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงหรือผู้ที่มีภาวะของโพแทสเซียมต่ำไม่ควรใช้ชะเอมเทศในขนาดที่เกินกว่า 50 กรัมต่อวัน นานเกินกว่า 6 สัปดาห์ เพราะอาจจะส่งผลทำให้เกิดการสะสมน้ำในร่างกาย เกิดอาการบวมที่มือและเท้า และไม่ควรใช้ชะเอมเทศร่วมกับยาขับปัสสาวะ (กลุ่ม Thiazide) หรือยากลุ่ม Cardiac glycosides เนื่องจากชะเอมเทศจะส่งผลทำให้สารโพแทสเซียมถูกขับออกมามากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการใช้ชะเอมเทศร่วมกับยาขับปัสสาวะ Spironolactone หรือ Amiloride เพราะจะทำให้ประสิทธิผลของการรักษาโรคความดันโลหิตลดน้อยลง
  • นอกจากจะห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและผู้ที่เลือดมีระดับโพแทสเซียมต่ำแล้ว ยังรวมไปถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็ง ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตบกพร่องเรื้อรัง รวมไปถึงสตรีมีครรภ์อีกด้วยที่ไม่ควรใช้สมุนไพรชะเอมเทศ
  • ชะเอมเทศมีพิษน้อย แต่การรับประทานติดต่ออย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและมีอาการบวมเกิดขึ้นตามมาได้

ประโยชน์ของชะเอมเทศ

  • รากชะเอมเทศมีสารสำคัญคือสาร Glycyrrhizin (Glycyrrhizic acid หรือ Glycyrrhizinic acid) และสาร 24-hydroxyglyrrhizin โดยสารเหล่านี้เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายประมาณ 50-100 เท่า จึงถูกนำมาใช้เพื่อแต่งรสชาติอาหาร ใช้แต่งรสหวานในขนมและลูกอม ใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพร ใช้แต่งกลิ่นรสยาให้หวานและช่วยกลบรสยา (เนื่องจากในรากจะมีแป้งและความหวานอยู่มาก ควรเก็บไว้อย่าให้แมลงหรือมอดมากิน เพราะถ้าผุจะทำให้เสื่อมคุณภาพลงได้)[3],[5]
  • ชะเอมเทศยังสามารถนำมาใช้เป็นไวต์เทนนิงจากธรรมชาติได้อีกด้วย โดยสารสกัดที่ได้จากรากนั้นมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยลดความเข้มของเม็ดสี ลดฝ้ากระบนใบหน้า ช่วยทำให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยลดและต้านการอักเสบของผิว จึงสามารถนำมาใช้ทดแทนสารเคมีที่ช่วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้ แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวหน้าและไม่ก่อให้เกิดเป็นสิวอุดตันอีกด้วย
  • เนื่องจากชะเอมเทศมีสรรพคุณช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับลำคอและกล่องเสียง จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักร้อง นักพูด หรือผู้ที่ต้องใช้เสียงเป็นประจำ เนื่องจากชะเอมเทศนั้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างสารหล่อลื่นในบริเวณลำคอเหนือกล่องเสียงได้เป็นอย่างดี
  • ชะเอมเทศเป็นสมุนไพรที่นักกีฬาหรือผู้ใช้แรงงานนิยม โดยมักถูกนำไปเป็นส่วนผสมในตำรับยาสมุนไพรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตำรับยาบำรุงกำลังไปจนถึงตำรับยาทั่วไป เนื่องจากชะเอมเทศเป็นสมุนไพรที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมไปถึงการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบย่อยอาหาร ช่วยในระบบการเผาผลาญภายในร่างกาย ช่วยในเรื่องการดูดซึมสารอาหาร และยังช่วยในการสร้างเม็ดเลือดอีกด้วย

อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา 
ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม 73000
โทรศัพท์:  034-109682 

implemented Website by ColorPack Creations Co., Ltd.
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับโครงการ
    • ความเป็นมา
    • วัตถุประสงค์
    • แนวทางการดำเนินงาน
  • ข่าวสาร
    • ข่าวประชาสัมพันธ์
    • ข่าวฝึกอบรม
  • งานอบรม
    • หลักสูตรฝึกอบรม
    • ตารางกิจกรรม
    • คลังวีดีโอ
    • คลังรูปภาพ
  • บริการสถานที่
    • บริการจัดเลี้ยง
    • พิธีหมั้น
    • ประชุม / สัมมนา
  • ร้านค้า
    • สินค้าและโปรโมชั่น
  • ห้องสมุด
    • ประวัติความเป็นมา
    • บริการห้องสมุด
    • นิทรรศการถาวร พิพิธชัยพัฒนา
  • เกร็ดความรู้
    • เกร็ดความรู้ทั่วไป
    • ศูนย์การเรียนรู้อุทยาน พรรณไม้
  • ติดต่อ
  • แผนผังเว็บไซต์