• product
  • service2
  • กองทุน
  • coffee-banner
  • scb banner11

ข่าวประชาสัมพันธ์

สินค้าและโปรโมชั่น

มะพูด

มะพูด สรรพคุณและประโยชน์ของต้นมะพูด

มะพูด

มะพูด ชื่อสามัญ Garcinia

มะพูด ชื่อวิทยาศาสตร์ Garcinia dulcis (Roxb.) Kurz (ส่วนอีกข้อมูลระบุว่ามะพูดเป็นพรรณไม้ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia vilersiana Pierre) จัดอยู่ในวงศ์มังคุด (CLUSIACEAE หรือ GUTTIFERAE)

สมุนไพรมะพูด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ไข่จระเข้ ตะพูด ส้มปอง ส้มม่วง (จันทบุรี), พะวาใบใหญ่ (จันทบุรี, ชลบุรี), ปะหูด (ภาคเหนือ), ปะหูด มะหูด (ภาคอีสาน), จำพูด มะพูด (ภาคกลาง), ตะพูด พะวา ประหูด ประโหด ประโฮด มะนู (เขมร), ปะพูด เป็นต้น

ลักษณะของมะพูด

  • ต้นมะพูด เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อน[3] จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 7-10 เมตร (บ้างว่ามีความสูงประมาณ 15 เมตร) เรือนยอดเป็นกลมกลมหรือเป็นรูปไข่ เป็นทรงพุ่มแน่นทึบ ลำต้นตั้งตรง และอาจมีร่องรอยของแผลเป็น มีลักษณะเป็นปุ่มปมตะปุ่มตะป่ำ ซึ่งเกิดจากการหลุดร่วงของกิ่งก้านทั่วไป โดยจะแตกกิ่งก้านต่ำเป็นพุ่มโปร่ง ก้านจะแตกออกจากลำต้นค่อนข้างถี่ และเปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลเข้ม เรียบ และแตกเป็นร่องตื้น ๆ ตามยาวของลำต้น เมื่อเปลือกต้นเกิดบาดแผลจะมียางสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไหลซึมออกมา ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและการใช้กล้าปักชำ มีเขตการกระจายพันธุ์ในป่าดิบชื้น และตามชายห้วยหรือพื้นที่ริมน้ำในป่าเบญจพรรณ โดยจะพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และในพื้นที่แถบชายแดนจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ส่วนในต่างประเทศสามารถพบได้ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ชวา ลาว กัมพูชา และบอร์เนียว

ลำต้นมะพูด

ใบมะพูด ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอกหรือแกมรูปขอบขนาน โคนใบกว้างมนตัดตรง เว้าเล็กน้อยคล้ายกับรูปหัวใจและค่อย ๆ สอบเรียวเล็กไปที่ปลายใบ ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 8-12 เซนติเมตรและยาวประมาณ 15-25 เมตร แผ่นใบมักเป็นคลื่นเล็กน้อย เนื้อใบเหนียวและหนาคล้ายแผ่นหนัง หลังใบเรียบลื่นเป็นมัน สีเขียวเข้ม ส่วนท้องใบมีขนละเอียด แต่บางครั้งก็เกลี้ยง เมื่อแห้งเป็นสีเหลืองอมสีเทา ส่วนก้านใบสั้นย่นขรุขระยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร และมีขนบาง ๆ ขึ้นปกคลุม

ใบมะพูด

ดอกมะพูด ออกดอกเป็นช่อ ช่อละประมาณ 3-5 ดอก โดยจะออกดอกตามซอกใบหรือตามแผลใบและตามกิ่งก้าน ดอกเป็นสีขาวอมเหลือง ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่ในต้นเดียวกัน ดอกมีกลีบดอก 5 กลีบซ้อนกันอยู่ ดอกมีลักษณะตูมเป็นรูปทรงกลม ส่วนกลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปทรงกลม หนาและเป็นสีเหลืองอ่อน เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร บานเป็นรูปถ้วยโถ โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม

ดอกมะพูด

ผลมะพูด ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือเป็นรูปไข่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-6 เซนติเมตร ผิวผลเรียบและเป็นมัน ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองสดอมสีส้ม เนื้อในผลเป็นสีเหลือง มีรสเปรี้ยวอมหวาน ภายในผลมีเมล็ดประมาณ 2-5 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปรี สีน้ำตาล โดยจะติดผลในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน

ผลมะพูด

สรรพคุณของมะพูด

  1. น้ำคั้นจากผลมีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (ผล, น้ำคั้นจากผล)
  2. รากมีรสจืด เป็นยาแก้ไข้ (ราก)
  3. ช่วยแก้อาการร้อนใน (ราก)
  4. ช่วยแก้อาการไอ (ผล, น้ำคั้นจากผล)
  5. ช่วยแก้อาการเจ็บคอ (ผล, น้ำคั้นจากผล)
  6. ช่วยขับเสมหะ กัดเสมหะ (ผล, น้ำคั้นจากผล)
  7. ผลมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ (ผล)
  8. ช่วยถอนพิษผิดสำแดง (ราก)
  9. ช่วยขับถ่ายโลหิตเสียให้ตก (ผล)
  10. เปลือกต้นมีรสฝาด นำไปต้มกรองเอาแต่น้ำใช้ชำระล้างบาดแผล (เปลือกต้น)
  11. ช่วยแก้อาการช้ำใน (ผล)
  12. เมล็ดนำมาบดผสมกับน้ำส้มหรือเกลือ ใช้ทาแก้อาการบวม (เมล็ด)

ประโยชน์ของต้นมะพูด

  1. ผลสุกมีรสหวานอมเปรี้ยว ใช้รับประทานเป็นผลไม้ และในปัจจุบันได้มีการนำไปแปรรูปเป็นน้ำผลไม้และผลไม้กวนจำหน่าย
  2. ผลดิบมีรสเปรี้ยว ใช้แทนมะนาวในการทำแกงส้มกุ้งสดได้
  3. ใบและเปลือกต้นใช้สกัดย้อมสีเส้นไหม โดยจะให้สีเหลืองคล้ายสีเหลืองของดอกบวบ ให้สีเหลืองสด หรือ สีน้ำตาล
  4. ต้นมะพูดเป็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มสวยงาม ใบและผลเด่น จึงใช้ปลูกเป็นไม้ประดับและปลูกเพื่อให้ร่มเงาได้ เช่น ปลูกในบริเวณศาลา ใกล้ทางเดิน ริมน้ำ ในสวนผลไม้ เป็นต้น
  5. คนไทยโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นมะพูดไว้ในบริเวณบ้านจะช่วยส่งเสริมให้ลูกหลานเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา พูดในสิ่งที่ดีงาม พูดจาไพเราะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน แก้เด็กปากหนักไม่ยอมพูดกับใคร โดยจะนิยมปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน[

 

ส้มมะปิด

ส้มมะปิด สรรพคุณและประโยชน์ของส้มมะปิด

ส้มมะปิด

ส้มมะปิด ชื่อสามัญ Calamondin, Calamondin orange, China orange, Chinese orange, Golden lime, Kalamansi lime, Panama orange, Musklime, Philippine lime

ส้มมะปิด ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus × microcarpa Bunge (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Citrus × mitis Blanco, × Citrofortunella microcarpa (Bunge) Wijnands) จัดอยู่ในวงศ์ส้ม (RUTACEAE)

ส้มมะปิด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะนาวหวาน ส้มจี๊ด (กรุงเทพฯ), ส้มมะปิด (ตราด) เป็นต้น

หมายเหตุ : ส้มมะปิดหรือส้มจี๊ดที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นคนละชนิดกับ "ส้มจี๊ด" หรือ "ส้มกิมจ๊อ" (Kumquat) ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus Japonica Thunb.

ลักษณะของส้มมะปิด

  • ต้นส้มมะปิด จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1.5-3 เมตร เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาล ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ปักชำกิ่งหรือตอนกิ่ง เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนแล้วจึงแพร่กระจายมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮาวาย อินเดีย อินดีสตะวันตก อเมริกากลาง และอเมริกาเหนือ

ต้นส้มมะปิด

  • ใบส้มมะปิด ใบเป็นใบประกอบ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 1 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่หรือรูปรียาว ปลายใบแหลม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ หลังใบและท้องใบเรียบ

ใบส้มมะปิด

  • ดอกส้มมะปิด ออกดอกเป็นช่อหรือออกดอกเดี่ยว โดยจะออกที่ปลายยอด ดอกย่อยเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอม มีกลีบดอก 5 กลีบ เมื่อดอกบานจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ออกดอกได้ตลอดทั้งปี

ดอกส้มมะปิด

  • ผลส้มมะปิด ผลเป็นผลสด ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมเหมือนส้มทั่วไป แต่จะมีขนาดเล็กกว่า ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ เปลือกผลบาง ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด ภายในผลมีเมล็ด ออกผลดกมาก

ผลส้มมะปิด

ส้มจี๊ด

สรรพคุณของส้มมะปิด

  1. น้ำจากผลมีรสเปรี้ยว นำมาผสมกับเกลือเล็กน้อย ใช้ดื่มเป็นยาบรรเทาอาการไอ (น้ำจากผล)
  2. ผลแก่ดองเค็มตากแห้ง ใช้รับประทานเป็นยาแก้ไอและแก้อาการเจ็บคอ (ผลแก่ดองเค็มตากแห้ง)
  3. น้ำจากผลนำมาผสมกับเกลือน้อย ใช้ดื่มเป็นยาขับเสมหะ (น้ำจากผล)
  4. เปลือกผลดิบใช้กินสด ๆ เป็นยาขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (เปลือกผลดิบ)

ประโยชน์ของส้มมะปิด

  • ส้มมะปิดสามารถนำมารับประทานได้ทั้งเปลือก อีกทั้งน้ำส้มยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และกรดอินทรีย์อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนเปลือกของส้มมะปิดห่าม ๆ ก็สามารถนำมารับประทานเป็นผักเหนาะหรือผักแนมจิ้มกับน้ำพริกได้อีกด้วย
  • น้ำในผลมีรสเปรี้ยวจัด สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารแทนน้ำมะนาวได้ หรือใช้ปรุงรสน้ำพริก เพิ่มรสเปรี้ยวให้น้ำผลไม้
  • ส้มมะปิดทั้งเปลือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นแยมทาขนมปังได้ ในเวียดนามและฟิลิปปินส์จะนิยมนำมาแปรรูปโดยการแช่อิ่ม ดองเค็ม ตากแห้ง และใช้ในการปรุงอาหาร

มะพร้าวไฟ

มะพร้าวไฟ

มะพร้าวไฟเป็นมะพร้าวสายพันธุ์หนึ่งที่พบในประเทศศรีลังกา มีเปลือกสีเหลืองทอง มีสรรพคุณเช่นเดียวกับมะพร้าวทั่วไป เช่น แก้บิด แก้ท้องเสีย รักษาโรคผิวหนัง เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือด หากเป็นกะทิจะเพิ่มระดับไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือด
พื้นที่ปลูกมะพร้าวไฟ ควรมีฝนตกกระจายสม่ำเสมอไม่น้อยกว่า 1,500 มิลลิเมตรต่อปี และไม่ควรมีฝนตกน้อยกว่า 50 มิลลิเมตร เกิน  3 เดือน อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส ดินไม่เปรี้ยวหรือเค็มจัด    การปลูกหากพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมขังจำเป็นต้องยกร่องให้สูงกว่าระดับน้ำไม่น้อยกว่า 50 ซม. คันร่องกว้าง 5-8 เมตร ร่องลึก 1 เมตร กว้าง 1 1/2-2 เมตร ถ้าเป็นพื้นที่รกร้างแบบที่ดอน ต้องถางให้เตียน โค่นต้นไม้และขุดตอออกให้หมด ระยะปลูกที่ระหว่างต้น x ระยะระหว่างแถว เท่ากับ 6×6 เมตร ขุดหลุมกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร และลึก 1 เมตร ควรขุดในฤดูแล้ง ตากดินไว้ 7 วัน รองก้นหลุมด้วยกาบมะพร้าวใช้ดินเคล้ากับปุ๋ยคอกผสมลงไป แล้วทิ้งไว้จนถึงฤดูปลูก คือหลังจากฝนตกหนัก 2 ครั้ง เอาต้นมะพร้าวลงหลุมเอาดินกลบเหยียบด้านข้างให้แน่น ปักหลักกันลมโยก แล้วรอการเจริญเติบโต

มะนาวยักษ์

มะนาวยักต์

มะนาวเว่อหรือมะนาวยักษ์  มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย เป็นพืชตระกูลส้มประเภทซิตรอน  เติบโตได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย ไม่ชอบที่ชื้นแฉะ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง  โดยทั่วไป ต้นสูงประมาณ 3-10 เมตร ตามลำต้นและกิ่งก้านมีหนาม  ใบใหญ่และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว  ผลกลมใหญ่ ผิวเรียบเปลือกหนา ดอกมีสีขาวอมม่วง มีกลิ่นหอม   ผลสุกมีสีเหลืองมะนาว ขนาดผลใหญ่สุดเท่าผลส้มโอ มีรสเปรี้ยว มีกลิ่นหอมคล้ายน้ำมะนาว แต่รสอ่อนกว่ามะนาวเล็กน้อย ใช้ปรุงอาหารแทนน้ำมะนาวได้ดี  ใบอ่อน นำมาลวกหรือต้มรับประทานเป็นผักเครื่องเคียงร่วมกับน้ำ พริก  ลาบได้อย่างอร่อย ส่วนใบแก่นำมาหั่นเป็นฝอย ใส่ลาบเพื่อดับกลิ่นคาวปลา

สรรพคุณของมะนาว

  1. ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ
  2. ช่วยแก้อาเจียน เป็นลมวิงเวียนศีรษะ เมาเหล้าได้
  3. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงและต่ำ
  4. รู้หรือไม่ว่ามะนาวก็เป็นยาอายุวัฒนะและช่วยในการเจริญอาหารได้ด้วย
  5. แก้อาการวิงเวียนหลังคลอดบุตร
  6. แก้อาการลมเงียบ ด้วยการเอาใบมะนาวมาต้มกินกับยาหอม
  7. แก้โรคตาแดง
  8. ใช้เป็นยาแก้ไข้ก็ได้เหมือกัน ด้วยการนำใบมาหั่นเป็นฝอย ๆ แล้วนำมาชงในน้ำเดือด ดื่มเป็นน้ำชาหรือใช้อมกลั้วคอเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรค
  9. ใช้ในการแก้ไข้ทับระดู ด้วยการเอาใบมะนาวประมาณ 100 ใบมาต้มกิน
  10. สามารถช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟันได้ เพราะในมะนาวมีวิตามินซีสูงมาก
  11. มะนาวช่วยในการขับเสมหะ
  12. ช่วยแก้ไอหรืออาการไอที่มีเลือดปนออกมา ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการลงได้ดีในระดับหนึ่ง
  13. ช่วยบรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ
  14. ช่วยบรรเทาอาการเสียงแหบแห้ง
  15. ช่วยลดอาการเหงือกบวม
  16. ใช้เป็นยาบ้วนปาก ด้วยการใช้น้ำมะนาว 3-4 หยด ก็จะทำให้ช่องปากสะอาดมากยิ่งขึ้น
  17. ช่วยแก้ลิ้นเป็นฝ้า ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำมะนาวเช็ดที่ลิ้นวันละ 2-3 ครั้ง
  18. ช่วยในการขจัดคราบบุหรี่
  19. แก้เล็บขบ ด้วยการนำมะนาวมาผ่าส่วนหัวแล้วคว้านเอาเนื้อข้างในออกเล็กน้อย แล้วใช้ปูนทาบาง ๆ แล้วเอานิ้วสอดเข้าไป
  20. ก้างติดคอ ให้นำน้ํามะนาว 1 ลูกมาคั้นแล้วเติมเกลือ ใส่น้ำตาลเล็กน้อยแล้วกรอกลงไปให้ตรงกับบริเวณที่ก้างติดคอ อมไว้สักครู่แล้วค่อย ๆ กลืน ก้างปลาจะอ่อนตัวลงแล้วหลุดลงไปในกระเพาะ
  21. ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง แน่นท้อง ด้วยการนำน้ำมะนาวมาใช้กินกับน้ำตาล
  22. แก้อาการท้องร่วงด้วยการดื่มน้ำมะนาว
  23. ช่วยการขับพยาธิไส้เดือนด้วยการดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว
  24. ช่วยรักษาอาการท้องผูกด้วยการดื่มน้ำมะนาวผสมเกลือเล็กน้อยก็เป็นยาระบายชั้นดี
  25. ช่วยรักษาโรคกระเพาะด้วยการนำเปลือกมะนาวมาชงกับน้ำอุ่นและดื่มเป็นยา
  26. แก้อาการบิดด้วยการใช้มะนาวกับน้ำผึ้งอย่างละเท่า ๆ กัน แล้วนำมาดื่ม
  27. แก้อาการปัสสาวะกะปริดกะปรอย ด้วยการใช้ใบนะนาวสดต้มกับน้ำตาลแดงแล้วนำมาดื่ม
  28. สรรพคุณของมะนาวก็ช่วยรักษาโรคนิ่วได้เหมือนกัน
  29. แก้อาการระดูขาวด้วยการดื่มน้ำมะนาวผสมเกลือกับน้ำตาลนิดหน่อย
  30. แก้ผิดสำแดง นำรากมะนาวมาฝนกับน้ำซาวข้าวแล้วนำมารับประทาน
  1. ช่วยฟอกโลหิตด้วยการนำใบมะนาวต้มผสมกับน้ำแล้วนำมาดื่มเป็นประจำ
  2. ช่วยบำรุงโลหิต รักษาโรคโลหิตจาง ด้วยการนำน้ำมะนาวผสมกับน้ำหวานและปรุงด้วยเกลือทะเลพอสมควร ใส่น้ำแข็งนำมาดื่ม
  3. แก้โรคเหน็บชา ร้อนใน กระหายน้ำด้วยการดื่มน้ำมะนาว
  4. ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียด้วยการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำตาล
  5. การดื่มน้ำมะนาวจะช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้อีกด้วย
  6. รักษาโรคผิวหนังด้วยการนำน้ำมะนาวมาทาบริเวณที่เป็น
  7. บรรเทาอาการคันบริเวณผิวหนัง
  8. แก้สังคัง ใช้มะนาวผ่าซีกแล้วนำมาทาบริเวณดังกล่าวเป็นประจำก่อนเข้านอนและหลังตื่นนอน
  9. แก้ปัญหา กาก เกลื้อน หิด ด้วยการนำกำมะถันมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาทาบริเวณดังกล่าวหลังอาบน้ำ
  10. แก้หูดด้วยการใช้เปลือกมะนาวนำมาหมักกับน้ำส้มสายชูประมาณ 2 วันแล้วนำเปลือกมาปิดทับบริเวณที่เป็นหูด
  11. แก้ฝีและอาการปวดฝี โดยใช้รากมะนาวสดมาฝนกับเหล้าและนำมาทา ขูดเอาผิวมะนาวผสมกับปูนแดงปิดไว้
  12. แก้ฝีมะตอยด้วยการนำมะนาวทั้งลูกมาคว้านไส้ด้านในออกให้พอเอานิ้วแหย่เข้าไปได้ แล้วนำปูนกินหมากทาเข้าไปในลูกมะนาวเล็กน้อย แล้วสวมนิ้วเข้าไป
  13. รักษาโรคน้ำกัดเท้าหรือปูนซีเมนต์กัดเท้าด้วยการใช้น้ำมะนาวทาบริเวณดังกล่าว ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออก
  14. แก้ผิวหนังฟกช้ำ หัวโน อาการปวดบวม ปูดแดง ด้วยการนำน้ำมะนาวกับดินสอพองมาผสมให้เข้ากัน แล้วทาบริเวณดังกล่าววันละ 1-2 ครั้ง
  15. แก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก พุพองแสบร้อน ด้วยการใช้น้ำมะนาวชโลมบริเวณดังกล่าว
  16. แก้แผลบาดทะยักด้วยการใช้น้ำมะนาวมาทาบริเวณที่เกิดบาดแผล
  17. ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นด้วยการใช้น้ำมะนาวผสมดินสอพองให้เข้ากัน แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นรอยแผล
  18. ช่วยบรรเทาอาการคันหนังศีรษะ ด้วยการใช้น้ำมะนาวนวดศีรษะให้ทั่วแล้วค่อยสระผม
  19. น้ำมะนาวช่วยดับกลิ่นเต่าหรือกลิ่นกายได้เหมือนกัน โดยนำน้ำมะนาวมาทาบริเวณรักแร้
  20. แก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยและช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด
  21. แก้พิษจากการโดนงูกัด
  22. ป้องกันภัยจากงูด้วยการใช้เปลือกวางไว้บริเวณใกล้ที่นอน ๆ งูจะไม่มารบกวนเพราะได้กลิ่นมะนาว
  23. แก้แมงคาเรืองเข้าหู ด้วยการใช้น้ำมะนาวหยอดหู
  24. หุงข้าวให้ขาวและอร่อยขึ้น ด้วยการใช้น้ำมะนาวประมาณ 2-3 ช้อนนำไปซาวข้าว
  25. ทอดไข่ให้ฟูและนิ่ม มะนาว 4-5 หยดจะช่วยได้
  26. มะนาวช่วยลดกลิ่นคาวจากปลาเมื่อทำอาหารและทำให้ปลาคงรูปไม่เละ
  27. สำหรับแม่ครัวที่หั่นหรือเด็ดผักเป็นประจำ จะทำให้เล็บมือเป็นสีดำ นำมะนาวมาถูจะช่วยปัญหาดังกล่าวได้
  28. หากใช้มีดผ่าปลีกล้วย มีดจะมีสีม่วงคล่ำ ล้างออกลำบาก นำมานาวที่ผ่าแล้วมาถูตามใบมีด จะช่วยให้มีดของคุณสะอาดดังเดิม
  29. การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ารับประทาน เมื่อน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูมแล้ว ให้บีบมะนาวครึ่งซีกลงไป จะช่วยให้กล้วยใส น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
  30. มะนาว 2-3 ลูกใส่ไว้ในถังข้าวสารช่วยป้องกันมอดได้
  31. เปลือกมะนาวสามารถนำมาเช็ดภาชนะให้เงางามขึ้นได้ เช่น เครื่องเงิน ทองเหลือง ทองแดง เป็นต้น