• product
  • service2
  • กองทุน
  • coffee-banner
  • scb banner11

ข่าวประชาสัมพันธ์

สินค้าและโปรโมชั่น

มะรูมยักษ์

1.ต้นมะรุม - พลังเกษตร.com

มะรูมยักษ์

ชื่อวิทยาศาสตร์ Moringa oleifera Lam.

ชื่อวงษ์ Moringaceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

เป็นไม้ยืนต้น สูง 7-10 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสามชั้น ออกเรียงสลับ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ สีเขียวสด

ดอก ออกออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกเป็นสีเหลืองนวล มีกลีบดอก 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้เป็นสีเหลืองเข้ม ดอกบานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้วฟุต

 ผล เป็นฝักรูปกลมยาวและอ้วน แต่ความยาวของผลหรือฝักจะสั้นกว่าผลหรือฝักของมะรุมเนื้อและมะรุมไทยทั่วไปอย่างชัดเจน ผลหรือฝักอ่อนเป็นสีแดงเรื่อๆ เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เปลือกผลหรือฝักหนา ผิวเปลือกผลหรือฝักเป็นคลื่นตามยาวและจะนูนขึ้นระหว่างช่องของเมล็ด ปอกเปลือกเอาเนื้อจะได้เนื้อเยอะกว่าเนื้อมะรุมสายพันธุ์อื่นๆ ติดผลหรือฝักดกเป็นพวงเต็มต้นตามฤดูกาล

การขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ดและปักชำกิ่ง

สรรพคุณของมะรุมยักษ์

  1. รับประทานเมล็ดมะรุมวันละ 1 เมล็ดก่อนนอน ช่วยให้การขับถ่ายในตอนเช้าเป็นไปอย่างปกติและสม่ำเสมอ (เมื่อขับถ่ายเป็นปกติแล้วควรหยุดรับประทาน)
  2. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย
  3. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยในการชะลอวัย
  4. มะรุมลดน้ำตาล ช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยรักษาความสมดุลของระดับน้ำตาล
  5. น้ำมันมะรุมใช้นวดศีรษะ ฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะ แก้อาการคันหนังศีรษะ ลดผมร่วง (น้ำมันมะรุม)

สะเดาดำ

ถามผู้รู้ครับ ว่าชื่อต้นอะไร - Pantip

สะเดาดำ

ชื่อวิทยาศาสตร์  Azadirachta indica A.Juss.

ชื่อวงศ์  MELIACEAE  

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

เป็นไม้ยืนต้น ลำต้นสูง 7-10 เมตร   เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม แตกกิ่งก้านเป็นทรงพุ่ม ยอดอ่อนและดอกอ่อนกินได้เหมือนกับยอดสะเดาเขียวทั่วไป แต่รสชาติขมติดคอ ใบและดอก สีน้ำตาลคล้ำเกือบดำ

ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ใบย่อย 7-11 คู่ ใบเป็นรูปใบหอกโค้ง ปลายเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบยักยอดอ่อนเป็นสีน้ำตาลคล้ำเกือบดำ

ดอก ออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายยอด มีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยบานมี 5 กลีบ เป็นสีชมพูอมม่วง มีเกสรตัวผู้สีเหลืองอมส้มจำนวน 10 อัน ดอกบานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม.

ผล รูปกลมรี ผิวผลบาง มีเนื้อและฉ่ำน้ำ ผลแก่เป็นสีเหลือง มีเมล็ดจำนวนมาก

สรรพคุณของสะเดาดำ

สะเดาดำ  มีสรรพคุณทางสมุนไพรมากกว่า 70 อย่างโดยเฉพาะดอกและใบ ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ขับน้ำย่อยอาหารทำให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น บำรุงโลหิต บำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ช่วยเจริญอาหาร ช่วยแก้กษัยหรือโรคซูบผอม ผอมแห้งแรงน้อย มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเอดส์ ช่วยลดความเครียด ลดความดันโลหิตสูง ลดน้ำตาลในเลือด  ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง เป็นต้น

ต้นสาเก

สาเก" มีดีที่ไม่ควรมองข้าม! ต้านอนุมูลอิสระ ลดระดับคอเลสเตอรอล ...

บอย เศรษฐีนาคราช พาชมต้นสาเก - YouTube

ต้นสาเก

ชื่อวิทยาศาสตร์  Artocarpus altilis (Parkinson ex F.A.Zorn) Fosberg 

ชื่อวงษ์ (MORACEAE)

ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ "ขนุนสำปะลอ"

ต้นสาเก มีสายพันธุ์มากกว่า 120 สายพันธุ์ มีการเพาะปลูกกันมานานมากกว่า 3,000 ปีแล้ว ซึ่งในเกาะมาวีและเกาะกาวาย คือแหล่งสะสมต้นสาเกสายพันธุ์ต่าง ๆ ไว้หลายสายพันธุ์ โดยปลูกเอาไว้ให้ชมกันมากที่สุดในโลก สาเกเป็นไม้ผลที่ออกลูกดก (ในหนึ่งฤดูต้นสาเกอาจออกผลราว 200 ผล) แต่ที่นิยมปลูกในบ้านเราคือ สาเกพันธุ์ข้าวเหนียว

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ใบสาเก ใบเป็นใบเดี่ยวออกสลับกัน ลักษณะใบคล้ายรูปไข่ ใบมีสีเขียวเข้ม ใบใหญ่และหนา มีรอยหยักหรือร่องลึกเกือบถึงก้านกลางใบ (คล้ายใบมะละกอ) ก้านใบเห็นเด่นชัด

ดอกสาเก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกมีสีเหลือง ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียจะอยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้มีลักษณะคล้ายกระบอง และห้อยลง มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วนช่อดอกตัวเมียมีลักษณะกลม แต่จะแยกกันคนละดอก และสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี

ผลสาเก ลักษณะของผลกลมรี ผลมีสีเขียวอมเหลือง ลูกคล้ายขนุน แต่จะลูกเล็กกว่า มีความกว้างประมาณ 15-20 เซนติเมตร ส่วนเนื้อในเป็นสีเหลืองซีดหรือขาวและไม่มีเมล็ด (แต่มีสายพันธุ์หนึ่งที่มีเมล็ด จะเรียกว่า ขนุนสำปะลอ)

สรรพคุณของต้นสาเก

ผลสาเกนำไปต้มหรืออบจะได้เนื้อนุ่มเหมือนก้อนแป้ง ใช้ทำขนม เช่น เชื่อม แกงบวด ชาวอินโดนีเซียนำสาเกไปอบกรอบใช้เป็นอาหารว่าง และมีการนำไปป่นเป็นแป้งเพื่อทำขนมปังกรอบ เนื้อสาเกมีพลังงานสูง ให้แคลเซียมและวิตามินเอจำนวนมาก ช่วยป้องกันโรคหัวใจและกระดูกพรุน ผลแก่ใช้ทำขนมปัง โดยหั่นเป็นชิ้นบางๆตากแดดหรืออบแห้ง ในฟิลิปปินส์นำผลสาเกต้มสุกกินกับน้ำตาลและมะพร้าวขูดฝอย หรือเคลือบน้ำตาลแล้วทำให้แห้ง ใบและผลใช้เป็นอาหารสัตว์[1] ยางสาเกนิยมใช้เป็นชันยาเรือและใช้ดักนก ก้านดอกตัวผู้มีเส้นใยนำมาผสมกับใยปอสาใช้ทอผ้า เปลือกลำต้นมีเส้นใย ใช้ทอผ้าได้เช่นกัน เนื้อไม้ใช้ทำเรือแคนู กระดานโต้คลื่น หีบและลังไม้

 

แตรนางฟ้า

ขายแตรนางฟ้า ราคาถูก มีให้เลือกหลายร้าน - NanaGarden.com

แตรนางฟ้า

ชื่อวิทยาศาสตร์  ANGELS TRUMPETS

ชื่อวงศ์  SOLANACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

เป็นไม้พุ่ม สูง 1-1.5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเป็นรูปรี ปลายแหลม โคนสอบ ขอบใบจักตื้นห่างๆ ใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวสด

ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อ 1-3 ดอก ออกตามซอกใบมีกลีบเลี้ยงสีเขียวเป็นหลอดยาว ปลายกลีบเลี้ยงแยกเป็น 2 แฉก ลักษณะดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวปลายแผ่กางออก เหมือนปากลำโพงเครื่องเสียงยุคโบราณ ปลายกลีบดอกแบ่งเป็นแฉก โดยแต่ละแฉกปลายจะแหลมเป็นติ่งชัดเจน ดอกยาว 10–15 ซม. มีด้วยกันหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู สีเหลือง สีม่วง และ สีส้ม บางพันธุ์มีกลีบดอกซ้อนกัน 2-3 ชั้น และบางพันธุ์ดอกมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เวลามีดอกจะห้อยลงสวยงามมาก “ผล” กลมเหมือนมะเขือเปราะ บางชนิดมีหนามรอบผล มีเมล็ดจำนวนมาก ดอกออกทั้งปี

ขยายพันธุ์  โดยการตัดกิ่งที่สมบูรณ์ อายุไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ยาวไม่เกินคืบ อย่าตัดยาวมาก โอกาสรอดต่ำกว่าตัดสั้น ตัดใบออกให้หมด เพราะใบจะคายน้ำ แต่ไม่มีรากดูดน้ำ กิ่งจะแห้งตาย นำมาปักชำในที่ชื้น ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน เมื่อเห็นว่ากิ่งปักชำแตกใบอ่อนก็แสดงว่ากิ่งนั้นแตกรากออกมาแล้ว