ว่านกาบหอย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tradescantia spathacea Sw
ชื่อวงศ์ (COMMELINACEAE)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของว่านกาบหอย
ว่านกาบหอย จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีอายุ 3-5 ปี มักขึ้นเป็นกอๆ ไม่มีการแตกกิ่งก้าน ลำต้นอวบใหญ่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-5 เซนติเมตร ความสูงของต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร ใบเดี่ยวรูปหอกยาว หรือรูปแกมขอบขนานปลายแหลม ใบมีลักษณะหนาแข็งและตั้งตรง มีความกว้าง 2-6 เซนติเมตร ยาว 10-30 เซนติเมตร หน้าใบสีเขียวเข้ม หลังใบสีม่วง ออกดอกที่โคนใบ มีกาบใบ 2 ใบหุ้มอยู่ คล้ายเปลือกหอยแครง ดอกสีขาวขนาดเล็ก ดอกหนึ่งมี 3 กลีบ กลีบดอกรูปไข่ กลมรี ผลเป็นผลแห้ง เมื่อแตกออกจะแยกออกเป็น 2-3 แฉก รูปกระสวย
สรรพคุณของว่านกาบหอย
ตามตำราของประเทศต่างๆ พบว่าว่านกาบหอยมีสรรพคุณดังต่อไปนี้
- ตามตำรายาไทยใช้ใบสดของกาบหอยแครงหรือว่านกาบหอยเป็นยาแก้เจ็บคอแก้ไอ โดยใช้ใบสด 3 ใบ นำมาต้มผสมกับน้ำตาลกรวดเล็กน้อย ดื่มเป็นยา และนำไปเข้าตำรับยาแก้พิษไข้หรือโลหิตเป็นพิษ
- ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน กล่าวว่า ใบและดอกของว่านกาบหอยหรือกาบหอยแครงมีรสจืดชุ่ม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ที่ตับและปอด ใช้เป็นยาทำให้เลือดเย็นแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไอ แก้ร้อนในปอด แก้ไอเป็นเลือด แก้เลือดกำเดา แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้ถ่ายเป็นเลือด แก้บิดท้องร่วง แก้ฟกช้ำ และใช้เป็นยาห้ามเลือด ใช้ดอกของว่านกาบหอยเป็นยาแก้อาการตกเลือดในลำไส้
- แพทย์พื้นบ้านของประเทศอินเดียจะใช้ใบว่านกาบหอยผสมกับน้ำมันงา ใช้เป็นยาพอกรักษาโรคผิวหนัง และโรคเท้าช้าง
- ในประเทศไต้หวันจะใช้กาบหอยแครงทั้งต้นมาตำพอแหลก ใช้เป็นยาพอกแผล มีดบาด เพื่อห้ามเลือดและแก้อาการบวมอักเสบ